เรื่องนี้มีที่มาจาก ชายรายหนึ่ง อายุ 39 ปี เป็นชาว จ.สระบุรี ได้ร้องเรียนผ่านสื่อว่า ตนรู้จักกับนักศึกษาสาวรายหนึ่ง อายุ 21 ปี หน้าตาสวย อาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน เขาบอกว่าแอบปลื้มตนมานาน จึงตัดสินใจคุยกันประมาณเกือบเดือน คุยไปคุยมามีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ซึ่งตอนนั้นตนยังบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง เขาก็เข้ามาหาที่กุฏิ นั่งพูดคุยกันจนเลยเถิดมีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งตนก็รู้สึกผิด เพราะบวชได้เกือบ 10 ปี แต่ยอมรับว่าตอนนั้นเหมือนโดนสะกด หลงใหลเขามาก
ต่อมา เมื่อเดือน ก.ค. 2567 ตนรู้สึกว่าสิ่งที่ทำลงไปมันไม่ถูกต้อง ผิดศีล และฝ่ายหญิงเขาก็บอกว่า มีอะไรกันแล้วต้องสึกออกมารับผิดชอบด้วย ตนจึงตัดสินใจสึกออกมา แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป คบกันได้ประมาณ 4 – 5 เดือนก็มีปัญหากัน ฝ่ายหญิงก็เริ่มตีตัวออกห่าง ตนเริ่มรู้สึกว่าถูกหลอก เหมือนเขาหลอกให้สึกแล้วก็ทอดทิ้งตนไป จึงร้องเรียนเพื่อทวงความยุติธรรมให้แก่ตัวเอง
เพราะจริง ๆ ถ้าตนบวชและเป็นพระต่อ ตนก็จะได้เป็นถึงรองเจ้าอาวาสแล้ว แต่ตนยอมสึกออกมาเพื่อรับผิดชอบฝ่ายหญิง สุดท้ายเขาก็ทิ้งตนไปซะอย่างงั้น จึงรู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรม เหมือนโดนตัดอนาคต ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่บวชมา กลายเป็นไม่มีความหมายไปเลย ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเคยพูดกับฝ่ายหญิงว่า ถ้าทำแบบนี้เหมือนทำลายชีวิตพี่ แต่เขาบอกว่าก็รักกันจริง ออกมารับผิดชอบ แต่พอตนออกมาก็เป็นแบบนี้ ตนจึงอยากให้เขาแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เขากระทำ ตนเสียใจมาก
อย่างไรก็ตามหลังจากที่โพสต์ดังกลายถูกแชร์ออกไปก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็นอาทิ หลงทางเสียเวลา หลงสีกาเสียอนาคต ขอบคุณครับ, คิดได้เนาะ กรรมจริง ๆ , ดีแล้วที่สึก ทุกวันนี้ศาสนาก็มัวหมองมากพอแล้ว , บวชตามประเพณี ไม่ได้บวชเพราะลึกซึ้งในรสพระธรรม ก็จะประมาณนี้ , ตัดอนาคต = อกหัก-ตกงาน เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส